Page 2 - แลใบลาน ก่อนกาลล่วงเลย
P. 2
นับแต่ราชธานีสุโขทัยผ่านสมัยอยุธยามาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น คัมภีร์ใบลาน
มีความส�าคัญมากในการศึกษาพระธรรมวินัยของพระภิกษุสามเณร วัดเป็นศูนย์กลาง
การศึกษา เป็นส�านักเรียนของกุลบุตร โดยมีพระภิกษุผู้เชี่ยวชาญภาษาบาลีเป็นครูผู้สอน
ดังที่เมอร์ซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ ราชทูตคนหนึ่งในคณะทูตฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔
ซึ่งเข้ามาเจริญพระราชไมตรีในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้กล่าวไว้ว่า
“พระสอนหนังสือให้แก่เยาวชน ดังที่ข้าพเจ้าได้เล่าแล้ว และท่านอธิบายค�าสั่งสอน
แก่ราษฎรตามที่เขียนไว้ในหนังสือบาลี”
กาลเวลาล่วงไป... ระบบการศึกษาที่พัฒนาไปได้
เปลี่ยนศูนย์กลางการศึกษาจากวัดมาเป็นโรงเรียน หอไตร
ที่แต่เดิมเคยเป็นห้องสมุดของอารามกลายสภาพเป็น
พิพิธภัณฑ์ทางพระพุทธศาสนา ประกอบกับการเล่าเรียน
เขียนอ่านหนังสือเปลี่ยนมาใช้ตัวอักษรไทยแทนอักษรขอม
และอักษรธรรมที่เคยใช้จารบนแผ่นลานในอดีต ส่งผลให้
คัมภีร์ใบลานที่เคยเป็นแหล่งความรู้ทางสรรพศาสตร์
ของพระภิกษุสงฆ์ถูกลดบทบาทไปโดยปริยาย คัมภีร์
ใบลานหลายฉบับจึงถูกทอดทิ้ง เสื่อมสลาย และสูญหายไป
แม้วัดหลายแห่งจะตระหนักถึงคุณค่าและเก็บคัมภีร์
ใบลานไว้อย่างดี แต่การดูแลที่ไม่ถูกวิธีก็เป็นสาเหตุหนึ่ง
ที่ท�าให้คัมภีร์ใบลานเสื่อมสลายได้เช่นกัน เพราะใบลาน
เป็นอินทรียวัตถุจากพืช ประกอบด้วยส่วนผิวนอกที่เป็น
เสมือน “หนังก�าพร้า” มีลักษณะเรียบ มัน ไม่ซับน�้า และ
ส่วนเนื้อในมีน�้าหล่อเลี้ยงซึ่งเป็นส่วนประกอบของน�้ามัน
ธรรมชาติ ท�าให้เนื้อเยื่อของใบลานมีคุณสมบัติเหนียว
และยืดหยุ่น แต่เมื่อใบลานเก่าหรือมีอายุมากขึ้น น�้ามัน
ตามธรรมชาติที่เคยมีอยู่ในเนื้อลานจะระเหยไป ท�าให้
ใบลานกรอบ แตกหักง่าย ดังนั้นยิ่งเก็บคัมภีร์ใบลานไว้ใน
หีบธรรมหรือกล่องใบลานนานนับปี โดยไม่เปิดออก
ให้อากาศถ่ายเท เนื้อลานจะถูกอบและสูญเสียน�้ามันในตัว
เร็วขึ้น สุดท้ายแผ่นลานจะจับตัวกันเป็นก้อนแข็งเหมือน
ถูกไฟไหม้
ธันวาคม ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ 53
53