Page 4 - ผ้าห่อถักทอเชื่อมสายบุญ
P. 4
เวลาที่บวชนั้น เหล่ากุลบุตรจะได้เล่าเรียนเขียนอ่านศิลปวิทยาแขนงต่าง ๆ ทางโลก ในขณะ
เดียวกันก็ได้ศึกษาพระธรรมค�าสอนทางพระพุทธศาสนาไปพร้อมกัน ดังนั้นฝ่ายชายจึงมีความรู้
ความสามารถทั้งด้านอักขระและพระพุทธศาสนาพอที่จะจารคัมภีร์ใบลานถวายไว้เป็นพุทธบูชา
ซึ่งนับว่ามีอานิสงส์มากมายจะนับจะประมาณมิได้
ส�าหรับฝ่ายหญิงนั้น ค่านิยมของสังคมไม่
สนับสนุนให้เล่าเรียนศิลปะและวิทยาการต่าง ๆ
นอกจากได้รับการอบรมให้เพียบพร้อมเป็น
กุลสตรีที่มีฝีมือทางด้านการบ้านการเรือน
ท�าให้สตรีในสมัยนั้นไม่มีความรู้ อ่านไม่ออก
เขียนไม่ได้ และยังมีข้อก�าหนดมิให้สตรีจับต้อง
มัดคัมภีร์ใบลาน ด้วยถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์
ที่อนุญาตให้เฉพาะพระภิกษุ สามเณร และบุรุษ
เท่านั้นที่จับต้องได้ แม้แต่การผ่านเข้าไปใน
หอไตรก็เป็นเรื่องต้องห้ามเช่นกัน แต่ด้วยแรงศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัย
และความปรารถนาที่จะสั่งสมบุญในการ
สร้างสรรค์คัมภีร์ใบลานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า
ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงจึงอาศัยความสามารถด้าน
หัตถกรรมที่ตนมีทอผ้าขึ้นมาเพื่อท�าเป็น
ผ้าห่อมัดคัมภีร์ถวายเป็นพุทธบูชา อีกแนวคิด
หนึ่งกล่าวว่า การทอผ้าเพื่อห่อคัมภีร์ดังกล่าว
ก็เพื่อลดทอนผลแห่งกรรมที่ตนต้องคร่าชีวิต
หนอนไหมเป็นจ�านวนมากในการทอผ้านุ่งห่ม
จึงทอผ้าห่อคัมภีร์ขึ้นเพื่ออานิสงส์ผลบุญของ
ตัวผู้ทอเอง เป็นการขอขมาและอุทิศส่วนกุศล
แก่สรรพชีวิตที่ถูกท�าลายไปเพราะการทอผ้า
ผ้าห่อคัมภีร์แบบมีไม้ไผ่สอดสลับ
ผ้าห่อคัมภีร์มีประเภทที่ทอด้วยเส้นฝ้ายหรือไหมล้วนและแบบที่มีไม้ไผ่สอดสลับ ผ้าที่ทอ
ในแต่ละท้องถิ่นมีวิธีการในการใส่ลวดลายและมีชื่อเรียกเฉพาะแต่ละท้องถิ่น เช่น ผ้ามัดหมี่ ผ้าจก
ผ้าขิด ผ้าแพรวา ผ้ายกดอก เป็นต้น ส่วนผ้าห่อแบบมีไม้ไผ่คั่นก็สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมความเชื่อ
ของกลุ่มคนท้องถิ่น อาทิ กลุ่มวัฒนธรรมไทยวน ไทเขิน ไทลื้อ และไทใหญ่ ที่มีความเชื่อว่า ไม้ไผ่
ที่สอดสลับจะเป็นเสมือนขั้นบันไดทอดน�าพาผู้ถวายสู่สวรรค์เมื่อถึงคราวละโลก
มกราคม ๒๕๖๐ อยู่ในบุญ 43
43